เซรั่มไนอาซินาไมด์ ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วเห็นผลจริง

ในปี 2025 มีหลายแบรนด์ที่พัฒนาเซรั่มสูตรไนอาซินาไมด์ออกมาแบบจัดเต็ม แต่ละตัวก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป

• The Ordinary: สูตร 10% + Zinc 1% เน้นลดสิวคุมมัน ใช้แล้วรู้สึกผิวเรียบไว

• La Roche-Posay Mela B3: สำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยลดจุดด่างดำอย่างอ่อนโยน

• SOME BY MI Snail Truecica: เหมาะกับคนที่มีรอยแดงรอยดำ ใช้แล้วผิวดูแข็งแรงขึ้น

• Skinsista V Acne Clear: สำหรับวัยรุ่น ผิวมัน และมีปัญหาสิว
  ทุกแบรนด์ต่างมีเป้าหมายชัดในการฟื้นฟูผิว แต่สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้ตรงกับ “ผิวของตัวเอง” เช่น ถ้าคุณผิวแห้งควรเลือกสูตรที่มีมอยส์เจอร์เพิ่มมาด้วย เช่น Glycerin หรือ Allantoin เพื่อป้องกันผิวลอก

Niacinamide 5% หรือ 10% ต่างกันแค่ไหน? เลือกแบบไหนดี

ไนอาซินาไมด์ ช่วยเรื่องอะไร เปอร์เซ็นต์ของ Niacinamide บนฉลากไม่ได้แปลว่า “ยิ่งเยอะยิ่งดี” เสมอไป

• 5% ถือเป็นระดับกลางที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ให้ผลลัพธ์ชัดเจนโดยไม่เสี่ยงระคายเคือง

• 10% เหมาะกับคนผิวมันมาก สิวอุดตันเยอะ หรือรูขุมขนกว้าง
  แต่ถ้าคุณผิวแพ้ง่าย หรือเพิ่งเริ่มใช้ ควรเริ่มต้นจาก 2–5% เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัว
  และอย่าลืมดูสูตรผสมโดยรวมด้วยว่าใส่สารที่เสริมประสิทธิภาพหรือเปล่า เช่น Zinc PCA, Panthenol, หรือ Centella Asiatica ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองและทำให้ไนอาซินาไมด์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อยากลดรอยสิว-รูขุมขน ใช้ Niacinamide ดีไหม?

คำตอบคือ “ดีมาก” เพราะ Niacinamide ทำงานในระดับเซลล์ผิว โดยช่วยยับยั้งการส่งเมลานินจากเซลล์เม็ดสีขึ้นมาบนผิว ทำให้รอยดำดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง โดยปรับโครงสร้างของผิวชั้นนอกให้แน่น กระชับขึ้น เมื่อใช้ควบคู่กับกันแดดอย่างเคร่งครัด ไนอะซินาไมด์ ใช้ตอนไหน ผลลัพธ์จะชัดมาก โดยเฉพาะในผู้ที่เพิ่งผ่านการเป็นสิวอักเสบ หรือมีปัญหาผิวไม่เรียบเนียนจากสิวอุดตันในอดีต ไนอาซินาไมด์คือคำตอบของ “ผิวหลังสิว” อย่างแท้จริง