รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ 2025 การเลือกรองพื้นให้ตรงกับสภาพผิวเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพราะรองพื้นที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวจะทำให้เมคอัพพังได้ง่าย ผิวมันควรเลือกรองพื้นเนื้อแมตต์หรือเนื้อซาตินที่สามารถควบคุมความมันระหว่างวันได้ดี ลดการไหลเยิ้มและการอุดตันในรูขุมขน ผิวแห้งควรมองหารองพื้นที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นสูง เช่นมีส่วนผสมของไฮยาโลรอนิค แอซิด กลีเซอรีน หรือสควาเลน เพื่อช่วยเติมน้ำให้ผิวดูฉ่ำ สุขภาพดีไม่ลอกเป็นขุย ผิวผสมสามารถใช้เทคนิคการลงรองพื้นแบบแบ่งโซน โดยใช้เนื้อแมตต์บริเวณทีโซน และเนื้อชุ่มชื้นบริเวณแก้ม เพื่อให้ผิวดูสมดุลและสวยทั้งวันไม่เป็นคราบ
ปกปิดดีแต่ไม่หนา คือหัวใจของรองพื้นคุณภาพ
ความสามารถในการปกปิดถือเป็นคุณสมบัติหลักของรองพื้นที่ดี แต่การปกปิดไม่ควรมาพร้อมความรู้สึกหนักหน้า รองพื้นจากเคาน์เตอร์แบรนด์ในปี 2025 รองพื้นสําหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย ถูกออกแบบให้เนื้อบางเบาแต่แน่นด้วยพิกเมนต์ที่เกลี่ยง่าย กระจายตัวได้ดีบนผิว เช่น Dior Forever ที่ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์แต่ยังเผยผิว หรือ Estée Lauder Double Wear ที่สามารถคุมมันและติดทนนานโดยไม่ดูหนา ทั้งยังสามารถเลเยอร์เพิ่มได้ตามต้องการโดยไม่ดูโบ๊ะ การปกปิดที่ดีจึงควรควบคู่กับความเบาสบายผิว รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ ผิวแห้ง ใช้ง่ายในชีวิตประจำวัน
Shiseido RevitalEssence Skin Glow |
Dior Forever Skin Glow |
Hourglass Ambient Soft Glow |
NARS Light Reflecting Foundation |
Laura Mercier Real Flawless Weightless |
|
|
|
|
|
รองพื้นบำรุงผิวในขวดเดียว
ผิวโกลว์ดูแพง สารสกัดสกินแคร์เข้มข้น |
โกลว์ผิวระดับรันเวย์
ความฉ่ำที่ยึดติดผิวได้ทั้งวันโดยไม่เยิ้ม |
ความโกลว์ที่มีมิติแบบ Soft Focus
ละมุนในทุกแสง พร้อมสูตรวีแกน |
รองพื้นที่ทั้งบำรุงผิวและเบลอแสง
พร้อมเทคโนโลยี Light-Adjusting Complex |
งานผิวแบบ Real Skin ที่เบาสบาย
เหมือนไม่ได้ทา แต่ดูผิวเนียนใสขั้นสุด |
LAZADA
SHOPEE |
LAZADA
SHOPEE |
LAZADA
SHOPEE |
LAZADA
SHOPEE |
LAZADA
SHOPEE |
พิกเมนต์แน่นแต่บางเบา คุณภาพของแบรนด์ชั้นนำ
รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ไม่ใช่แค่ราคาแพง แต่คือการพัฒนานวัตกรรมของเนื้อสัมผัส
แบรนด์อย่าง Dior, Shiseido, NARS ใช้เทคโนโลยีการกระจายเม็ดสีที่ละเอียด ทำให้เนื้อเกลี่ยง่าย ปกปิดดีโดยไม่หนา
บางรุ่นอย่าง Estée Lauder Double Wear ก็โดดเด่นด้วยความติดทนระดับ 24 ชม. แม้จะมีความหนาแน่นของเม็ดสี แต่กลับให้สัมผัสบางเบา
การปกปิดจึงไม่ต้องแลกกับความรู้สึกหนักผิว
เฉดสีหลากหลาย เพราะความกลืนผิวคือเรื่องใหญ่
รองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ในปีนี้เพิ่มจำนวนเฉดมากขึ้น และมีระบบจับคู่สีด้วย AI ในหลายแบรนด์
ควรเลือกสีที่ “พอดีผิว” ไม่สว่างเกิน ไม่เทาเกิน และเข้าได้กับอันเดอร์โทน (Yellow / Neutral / Pink)
บางแบรนด์อย่าง MAC หรือ Fenty Beauty มีเฉดผิวเข้มให้เลือกมากกว่ารองพื้นทั่วไป
อย่าลืมทดลองบริเวณข้างแก้มหรือแนวกราม และดูในแสงธรรมชาติเพื่อความแม่นยำ
การมีเฉดที่ใช่จะทำให้รองพื้นดูกลืนกับผิวจนแทบไม่รู้ว่าทาอยู่
รองพื้นติดทนจริงหรือแค่โฆษณา ?
ความติดทนของรองพื้นมีปัจจัยมากกว่าสูตร
ต้องใช้ร่วมกับ Primer และ Setting Powder หรือ Setting Spray
รองพื้นที่โฆษณาว่า Long-wear เช่น Double Wear, Fenty Pro Filt’r หรือ Dior Forever ผ่านการทดสอบในหลายสภาพอากาศ
เคล็ดลับคือ ลงทีละน้อยแล้วค่อยๆ เกลี่ยเป็นชั้น จะช่วยให้ติดทนและไม่ตกร่อง
ใครที่ต้องการหน้าเป๊ะตั้งแต่เช้าจรดค่ำ รองพื้นติดทนคือคำตอบ
รองพื้นที่ผสานสกินแคร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ผิวดูกระชับขึ้นทุกครั้งที่ใช้
- ฟินิชโกลว์ฉ่ำ ปกปิดระดับ Light to Medium ให้ผิวดูอิ่มน้ำแต่ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา
- ผสานสารบำรุง Bifida Ferment Lysate, Niacinamide, และ Glycerin เกราะผิวและมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
- ผิวแลดูสุขภาพดีในทันทีที่ทา ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง ติดทนระดับ 8–10 ชั่วโมงโดยไม่ดรอป
- ปกปิดที่เป็นธรรมชาติ ผิวสวยฉ่ำโกลว์เหมือนเพิ่งตื่นนอน ผิวดูกระชับขึ้นทุกครั้งที่ใช้ มอบความเปล่งปลั่ง
เนื้อสัมผัส ลิควิดบางเบา เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นแบบเซรั่ม การปกปิด ปานกลาง — ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนแบบไม่โบ๊ะ ความติดทน 8–10 ชั่วโมง คงความโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ ฟินิชลุค โกลว์ฉ่ำน้ำ เหมาะกับผิวธรรมดา-แห้ง คุณสมบัติพิเศษ มี Prebiotics + Fermented Kefir + Niacinamide SPF SPF 35 PA+++ เหมาะกับใคร ผิวขาดน้ำ ผิวหมอง ผิววัยทำงานที่ต้องการรองพื้นสายบำรุง
รองพื้นเพื่อผิวโกลว์หรูหรา ดูมีระดับ พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน
- โกลว์กลางๆ ปกปิดระดับ Medium buildable เหมาะกับผิวธรรมดา-แห้งถึงผิวผสม
- อุดมด้วย Iris Extract และ Rosehip Extract บำรุงให้ผิวดูกระชับและเปล่งปลั่ง
- ให้ผิวฉ่ำวาวทั้งวันโดยไม่มันเยิ้ม ติดทน 10–12 ชั่วโมง สีไม่ดรอป แม้สภาพอากาศร้อน
- พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ
เนื้อสัมผัส ครีมลิควิดเนียนละเอียด เกลี่ยแล้วแนบผิวทันที การปกปิด ปานกลาง-สูง — เบลอรูขุมขน ผิวดูเป๊ะไม่หนา ความติดทน 10–12 ชั่วโมง แม้ในอากาศร้อน ฟินิชลุค โกลว์แบบเรียบหรู ไม่มันวาวเกินไป
คุณสมบัติพิเศษ Rose Extract บำรุงผิว + รองพื้นสูตร Non-comedogenic SPF SPF 35 PA+++ เหมาะกับใคร คนที่ต้องการงานผิวระดับพรีเมียม ติดทนนานและดูหรูหรา
รองพื้นลุคผิวฟุ้งละมุนราวกับแสงจากฟิลเตอร์ ให้ความรู้สึกเบาแต่ดูแพง
- Soft Glow ปกปิด Medium to Full เหมาะกับทุกสภาพผิว
- มีไวตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระปกป้องผิวจากมลภาวะ
- ผิวดูเรียบแต่ยังมีมิติ ไม่แมตต์จนแบน ติดทน 12 ชั่วโมงโดยไม่แห้งเป็นคราบ
- ความโกลว์ที่มีมิติแบบ Soft Focus ละมุนในทุกแสง พร้อมสูตรวีแกน
เนื้อสัมผัส ลิควิดเข้มข้นแต่เกลี่ยง่ายแบบเซรั่ม การปกปิด ปานกลาง-สูง — เบลอผิวราวกับผ่านฟิลเตอร์ ความติดทน 12 ชั่วโมงขึ้นไป ติดทนแบบไม่เป็นคราบ ฟินิชลุค กึ่งแมตต์-โกลว์แบบกล้องฟิล์ม คุณสมบัติพิเศษ มีวิตามิน E + Blur Technology SPF SPF 35 PA+++
เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการผิวโกลว์มีมิติ ติดทนแบบมืออาชีพ
รองพื้นที่เกิดมาเพื่อกล้อง ผิวดูสว่าง สดใส ไม่หนักหน้า ให้ลุคสวยสุขภาพดี
Natural Radiant ปกปิด Light to Medium เหมาะกับผิวธรรมดา-มัน ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสแม้ไม่มีแสง
- มี Algae Extract และ Milk Thistle ช่วยเสริมเกราะผิว ลดการอักเสบจากมลภาวะ
- กล้องจับผิวดูผ่องนุ่มมาก ติดทนประมาณ 8–10 ชั่วโมงโดยไม่ตกร่อง
- รองพื้นที่ทั้งบำรุงผิวและเบลอแสง พร้อมเทคโนโลยี Light-Adjusting Complex
เนื้อสัมผัส ลิควิดบางเบา ไม่เหนียวเหนอะ การปกปิด ปานกลาง — เน้นความเนียนใสแบบผิวดี ความติดทน 8–10 ชั่วโมง คุมความมันปานกลาง ฟินิชลุค โกลว์น้อย ๆ แบบผิวสุขภาพดี คุณสมบัติพิเศษ มีสกินแคร์กว่า 70% + Niacinamide SPF SPF 35 PA+++
เหมาะกับใคร ผิวผสม-ธรรมดา ที่ต้องการงานผิวแบบสุขภาพดี + สกินแคร์
ผิวดูเรียบเนียนแบบไร้น้ำหนัก เปรียบเสมือนรองพื้นที่ให้ฟินิชแบบงานผิวขั้นสุด
- Semi-Matte ปกปิด Medium ถึง Full เหมาะกับผิวผสมถึงมันที่ต้องการความเรียบเนียนนานหลายชั่วโมง
- มี Hyaluronic Acid และ Antioxidant Vitamin E ช่วยให้ผิวไม่แห้งลอกระหว่างวัน
- ติดทนนาน 12–14 ชั่วโมง ไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน คุมมันได้ดี
- งานผิวแบบ Real Skin ที่เบาสบาย เหมือนไม่ได้ทา แต่ดูผิวเนียนใสขั้นสุด
เนื้อสัมผัส เบาบางแบบ second-skin กลืนผิวทันที การปกปิด ปานกลาง-สูง — เบลอรูขุมขนและริ้วรอย ความติดทน 10 ชั่วโมงแบบไม่ดรอป ฟินิชลุค กึ่งแมตต์-โกลว์ผิวดี คุณสมบัติพิเศษ วิตามิน E + สารต้านอนุมูลอิสระ SPF SPF 35 PA+++
เหมาะกับใคร คนที่อยากได้งานผิวดูแพง เบาสบาย ใช้ได้ทุกวัน
รองพื้นสายฝ.ที่ให้การปกปิดแน่นระดับฟูลคัฟเวอเรจ พร้อมฟินิชแมตต์ดูแพง
- ผิวดูเนียนแบบสวยเป๊ะทุกองศาเหมาะกับงานกล้อง งานสตูดิโอ หรือวันที่ต้องการผิวแน่นติดทนทั้งวัน
- Matte Full Coverage เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ เหมาะกับผิวมันถึงผิวผสมที่ต้องการผิวสวยตึงแบบไม่ต้องเซตบ่อย
- มีสารสกัดจากเห็ดหูหนู, Babassu และวิตามิน E ช่วยให้แม้รองพื้นแมตต์แต่ยังคงความชุ่มชื้น ลดการแห้งลอก
- ติดทนระดับ 16 ชั่วโมง ไม่หลุดลอกง่าย กันเหงื่อได้ดีมาก เหมาะกับวันที่ต้องการผิวเป๊ะตลอดวัน
เนื้อสัมผัส ครีมแน่น ปาดแล้วเกลี่ยง่าย ไม่แห้งไว การปกปิด สูง — ปิดรอยสิว จุดด่างดำ ได้เนียนกริบ ความติดทน 12–16 ชั่วโมง ไม่หลุดไม่ลอก ฟินิชลุค กึ่งแมตต์-โกลว์เล็กน้อย คุณสมบัติพิเศษ Tape Technology ยืดหยุ่นตามผิว SPF SPF 35 PA+++
เหมาะกับใคร ผิวมัน ผิวที่ต้องการรองพื้นที่เอาอยู่ทั้งวัน
องพื้นในตำนานของสายมือโปรที่ให้การปกปิดดีเยี่ยม คุมมันขั้นสุด
- ครอบคลุมทุกเฉดผิว ผิวเป๊ะในทุกสถานการณ์แม้สภาพอากาศไม่เป็นใจ พร้อมโทนสีให้เลือกหลากหลาย
Semi-Matte Full Coverage ให้ลุคผิวแมตต์ที่ยังดูเป็นผิว ไม่หนา ไม่โป๊ะ
- มี Silica ควบคุมความมัน และสารกันแดด SPF15 ปกป้องผิวจากรังสี UV ระหว่างวัน
- คุมมันได้ดีมากถึง 12 ชั่วโมง สีไม่ดรอป ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ใช้แล้วผิวดูเนียนละเอียดเหมือนผ่านรีทัช
เนื้อสัมผัส ครีมเนื้อแน่น เกลี่ยง่าย ให้ฟินิชแมตต์ การปกปิด ปานกลาง-สูง — ปิดรูขุมขนและรอยสิว ความติดทน 10–12 ชั่วโมง โดยเฉพาะในอากาศร้อน ฟินิชลุค แมตต์เป๊ะ ผิวดูเฟิร์ม คุณสมบัติพิเศษ Oil-Control + Non-Acnegenic SPF SPF 15 เหมาะกับใคร ผิวมัน-ผิวผสม ที่ต้องการลุคคุมมันและงานผิวเป๊ะ
รองพื้นลุคผิวใสไร้น้ำหนักรุ่นใหม่จาก Double Wear
- Natural Matte ปกปิดระดับ Light to Medium เหมาะกับผิวมัน-ผสมที่อยากได้ความเบาสบายแต่ยังดูเรียบเนียน
- มี Glycerin และ Sunflower Extract พร้อม SPF20 PA++ ป้องกันแสงแดดในชีวิตประจำวัน
- ติดทน 10–12 ชั่วโมงแม้เนื้อบาง คุมมันดี ไม่เป็นคราบ ผิวดูเรียบใสแบบไม่โบก
- สูตรใหม่ เบาลงแต่ยังติดทน สาย Clean Look ต้องไม่พลาด เหมาะกับลุค no-makeup makeup
เนื้อสัมผัส ลิควิดบางเบา เกลี่ยลื่นเหมือนน้ำ การปกปิด บางเบา-ปานกลาง — เน้นงานผิวจริง ความติดทน 12 ชั่วโมงแบบบางสบาย ฟินิชลุค Semi-Matte ธรรมชาติ คุณสมบัติพิเศษ Oil-Free + Sweat-Resistant SPF SPF 20 PA++ เหมาะกับใคร ผิวผสม-มัน ที่ต้องการลุคใส ๆ ใช้ง่ายทุกวัน
รองพื้นหรูหราที่สายฝรั่งและสาวเอเชียใช้ได้เหมือนกัน สไตล์ฝรั่งเศส
- Soft Matte Full Coverage ปกปิดแน่นแบบไม่อุดตัน ไม่ดรอประหว่างวัน
- มี Perlite ควบคุมความมัน และ Rose Extract เพิ่มความนุ่มนวลให้ผิว
- ติดทนถึง 24 ชั่วโมง ผิวดูแมตต์แต่ยังมีชีวิตชีวา ไม่ดูแบน ใช้ได้แม้ในวันที่ร้อนจัด
- ฟูลคัฟเวอร์ที่ยังดูแพง งานผิวแน่นที่ไม่แมตต์แห้งจนเกินไป พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ สไตล์ฝรั่งเศส
เนื้อสัมผัส ครีมลิควิดแน่น ๆ แต่ไม่หนักหน้า การปกปิด สูง — ปกปิดแนบสนิทเหมือนผิวจริง ความติดทน 14–16 ชั่วโมง เหมาะกับวันยาวนาน ฟินิชลุค Semi-Matte ผิวเนียนนัว คุณสมบัติพิเศษ ไม่มีน้ำหอม + เหมาะกับผิวแพ้ง่าย SPF SPF 15 เหมาะกับใคร ผิวมัน-ผิวผสม ที่ต้องการฟูลลุคที่ยังดูไม่หนา
รองพื้นที่ให้ลุคผิวเนียนธรรมชาติแต่ติดทนจนน่าทึ่ง ฟินิชแมตต์
- Soft Matte Medium to Full Coverage เหมาะกับผิวผสมถึงมัน ต้องการผิวเนียนเป๊ะแต่ดูเบาสบาย
- มี Marine Sugarcane Extract และ Mineral Powder ควบคุมความมัน พร้อมมอบความชุ่มชื้น
ติดทนสูงสุด 16 ชั่วโมง สีไม่ดรอป ไม่เป็นคราบแม้เหงื่อออก และยังให้ความรู้สึกเบาเหมือนไม่ทา
- รองพื้นแมตต์สายเบา ที่ไม่แห้งตึง ให้ผิวดูสุขภาพดีระหว่างวัน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเหมือนรองพื้นแมตต์ทั่วไป
เนื้อสัมผัส ลิควิดเบา ๆ ซึมผิวทันที การปกปิด ปานกลาง-สูง — ปรับโทนผิวสม่ำเสมอ ความติดทน 10–12 ชั่วโมง ฟินิชลุค Soft Matte ดูแพง ไม่ด้าน คุณสมบัติพิเศษ Oil-Free + Marine Sugarcane Extract SPF SPF 15 เหมาะกับใคร คนที่ต้องการลุคแมตต์หรูหราแต่ไม่แห้ง