อาการ ลองโควิด หรือ long covid เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งเริ่มมีอาการหลังจากที่เชื้อโอไมครอนเข้ามาในไทย หลายคนต้องการ การดูแลสุขภาพเบื้องต้น ในอาการข้างต้น แต่ทุกคนต้องทราบก่อนว่าลองโควิดมีข้อสังเกตอย่างไร ใน ที่นี่ มี 5 ข้อ ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด ดังนี้ มีอาการที่เหนื่อย/หอบง่ายกว่าเดิม จากที่เคยออกกำลังกายได้ปกติ กลับรู้สึกเหนื่อย หรือ การทำกิจวัตรเดิม ๆ แต่เดิมทำได้ ทว่าในตอนนี้ทำได้มาเต็มที่แล้ว สุขภาพดี รู้สึกอ่อนแรง แม้จะบำรุงร่างกายตนเองดีแล้วก็ตาม แต่ยังอ่อนเพลียไปหมด หยิบจับอะไรก็ยังค่อยจะไหว วัน ๆ อยากแต่จะนอนอย่างเดียว อาการไอเรื้อรัง ไอตลอด ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยก็ไอ ซึ่งเป็นอาการของลองโควิดที่พบได้บ่อยมาก และต้องได้รับ การดูแลสุขภาพเบื้องต้น ด่วนสุด ปวดหัว ไม่สบายตัว แต่ไม่มีไข้ ก็เป็นอาการที่แพทย์พบ หลังจากที่หายป่วย โรคโควิด-19 ประมาณ 3-7 วัน มีภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบทุกคนพบเจอเลย เพราะในช่วงที่ติดเชื้อได้รับการกักตัว ไม่ได้พบเจอใคร …
การดูแลร่างกาย ให้ปลอดภัยจากโควิด จะมีวิธีไหนบ้างตามไปดูกันเลย
ตอนนี้โควิดระบาดหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นเชื้อตัวใหม่ที่ติดง่ายขึ้นและหากคุณเป็นจะไม่ได้กักตัว เพราะให้มารักษาที่บ้านต่อ เพราะเป็นเชื้อที่ติดง่ายแต่ก็รักษาได้คล้ายไข้หวัดแต่ถึงอย่างไรไม่เป็นก็คือดีที่สุดค่ะ เพราะหากคุณได้รับเชื้อไปแล้วปอดของคุณจะอ่อนแอ แล้วติดผู้สูงอายุจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทันทีค่ะ ทำให้คนกลัวโรคนี้เพราะมีคนอยู่ข้างหลังทำให้ใครหลายคนเครียดค่ะกับโรคนี้ ใครที่ยังไม่รู้จัก การดูแลร่างกาย ตัวเองและยังคิดว่าแค่โรคชนิดหนึ่งเราบอกได้เลยว่าคุณคิดผิด วันนี้เรามาแนะนำการดูแลร่างกายให้คุณได้ปฎิบัติตามช่วงโควิดกันค่ะ วิธี การดูแลร่างกาย ให้พ้นจากโควิด เป็น การดูแลร่างกาย เบื้องต้นที่คุณห้ามถอดเด็ดขาด ตอนนี้หมอให้ใส่แมส 2 ชั้น ไม่ให้ใส่แมสผ้าเพราะกันเชื้อไม่ได้ พกเจลล้างมือทุกครั้งที่คุณได้สัมผัสกับอะไร ให้ใช้ทันทีไม่กินของร่วมกับใคร เว้นช่องห่าง ในการคุย เพียงเท่านี้คุณก็ดูแลร่างกายเบื้องต้นได้ดีแล้วคะ และหากคุณต้องไปที่แอดอัดเราแนะนำให้คุณเลี่ยงช่วง โรคโควิด ระบาดหนักๆ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ใส่แมส และล้างมือตามขั้นตอนเลยค่ะ กลับมาให้ถอดชุดแล้วอาบน้ำสะผมทันทีเลยค่ะ ซักเสื้อผ้าที่ออกไปข้างนอกอย่าปล่อยให้เชื้อโรคคานะค่ะ สุขภาพดี และหากคุณพบว่าคุณมีอาการหรืออยุ่ในกลุ่มเสี่ยงให้ตรวจหาเชื้อโรคทุก 3 วัน หากมีเชื้อให้ไปโรงพยาบาลและตรวจให้ละเอียด หากคุณได้กักตัวที่บ้านให้คุณทายาตามที่หมอจัดให้ครบ ผู้ชายที่สูดบุหรี่ให้งด และทานอาหารอ่อนๆ นอนให้เพียงพอ ตรวจซ้ำจนกว่าเชื้อจะหายไป เป็นการดูแลร่างกายเบื้องต้นที่ทุกคนต้องช่วยกันค่ะเพราะโรคนี้ไม่หมดไปง่ายๆ แน่นอน กลายเป็นโรคประจำที่ใครก็ติดได้ หากเราไม่ช่วยกันเชื้อโรคตัวนี้ก็ไม่หมดไป ทำให้ส่งผลกระทบหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ ด้านการศึกษา และความเป็นอยู่เราบอกได้เลยว่ามันไม้คุ้มจริงๆ ดัมมี่ออนไลน์ แนะนำช่วงโรคระบาดหนักไม่ไปหาใครไม่จับกลุ่มคุยกัน อาบน้ำดูแลร่างกายให้ตรงตามที่อนามัยโลกแนะนำ ค่ะ Related …
สมาชิกในบ้านติดโควิด – 19 เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้ติดต่อกันได้
สถานการณ์ในไทยปัจจุบันนี้ ก็มีการระบาดของโควิด – 19 อีกครั้ง และเชื้อที่ทำให้ติดง่ายกว่าเก่าก็คือโอไมครอน ที่จะมีลักษณะที่ออกอาการไม่มาก ไม่ต่างอะไรจากไข้หวัดธรรมดา แต่บางรายก็สามารถเกิดความเสี่ยงได้หลาย ๆ อย่าง ดังนั้นเมื่อมีอาการเจ็บคอ ไอ มีเสมหะ ที่เป็นอาการหวัดเบื้องต้นก็สามารถไปตรวจที่โรงพยาบาล หรือหาที่ตรวจด้วยตัวเองก่อนได้ ทีนี้เมื่อตรวจด้วยตนเองและหากพบว่า สมาชิกในบ้านติดโควิด – 19 ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ตามอ่านกันได้เลย หากพบเจอ สมาชิกในบ้านติดโควิด – 19 ทำอย่างไร ในช่วงเวลานี้การที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลได้อย่างน้อยจะต้องอยู่ในผู้เสี่ยงสูงที่จะมีสิทธิที่จะตรวจ ดังนั้นใครหลายคนต่างก็เลือกมาตรวจด้วยตัวเองโดยใช้ ATK ซึ่งวิธีการตรวจจะต้องให้ปลายสำลีชี้ไปทางติ่งหู ไม่ใช่การแทงขึ้นไปด้านบน เพราะไม่เพียงแต่จะไม่เจอเชื้อ อาจทำให้การตรวจเป็นไปอย่างผิดพลาดได้ด้วย โดยหากตรวจด้วยตัวเองแล้วเจอว่าขึ้น 2 ขีด สุขภาพดี เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่มีประกันสังคม หรือสามารถใช้ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ตามที่แต่ละคนสะดวกได้ แต่ถ้าหากใครไม่มีสิ่งเหล่านี้ ก็สามารถใช้บัตรทองได้เช่นกัน โดยจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อทำการยืนยันอีกครั้งก่อน ในการตรวจโควิด – 19 ซึ่งอาจแล้วแต่ละโรงพยาบาล ณ วันที่ไปถึงจะมีการประเมินว่ามีกลุ่มเสี่ยงแค่ไหนตามดุลยพินิจของแพทย์ ให้รายละเอียดตามความเป็นจริง …
โรคโควิด กับเทศกาลแห่งวันหยุดใกล้เข้ามาเราจะดูแลตัวเองอย่างไร
ในช่วงปลายปีถือว่าเป็นช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดมากมาย ซึ่งช่วงเวลาเหล่านั้นเรามักใช้ไปกับครอบครัวในการเดินทางท่องเที่ยวหรือพบปะสังสรรค์กัน แต่ว่าในปีที่ผ่านมาเราต่างไม่ได้ใช้เวลาช่วงนี้ในการออกเดินทางท่องเที่ยวหรือว่าสังสรรค์กับคนรักและคนในครอบครัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด ทำให้เราต้องระวังตัวกันมากขึ้นอยู่ห่างกันมากขึ้น แต่ว่าในปีนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลาย ๆ คนเริ่มมีการได้รับวัคซีนครบโดสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราก็ควรระมัดระวังตัวกันอย่างเต็มที่ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลวันหยุดไว้ว่า เมื่อมีการไปสังสรรค์หรือพบปะผู้คนก็ควรที่จะใส่ หน้ากากอนามัย และตรวจด้วยเครื่องมือตรวจโรคโควิด(ATK) เมื่อมีการรวมตัวพบปะสังสรรค์กัน ยังขอให้ผู้ที่มีอาการป่วยพยายามอยู่บ้านให้ได้มากที่สุดแล้วไม่ออกไปพบปะสังสรรค์กับบุคคลอื่น ๆ ในช่วงวันหยุด ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยป้องกันได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคได้มากเลยทีเดียว สุขภาพดี นอกจากนี้ทาง CDC ยังบอกอีกด้วยว่าควรไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน โรคโควิด ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะไม่ได้ช่วยให้สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ก็สามารถช่วยลดอาการของการเจ็บป่วยเมื่อมีการติดเชื้อได้ทำให้มีอาการไม่รุนแรงมากนัก การฉีดวัคซีนยังสามารถช่วยทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนนั้นมีโอกาสน้อยลงที่จะเป็นผู้กระจายเชื้อ โรคโควิดไปสู่ผู้คนอื่นได้อีกด้วย และสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงก็จำเป็นต้องมีการปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลวันหยุดเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนโรคโควิดและได้มีการฉีด Booster โดสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว UFABET ก็ต้องขอให้ระมัดระวังมากกว่าคนอื่น ๆ ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี โดยผู้ที่มีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงนั้นให้พยายามใส่หน้ากากที่ฟิตกับโครงหน้าและพยายามเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่น ๆ พอประมาณ รวมไปถึงพยายามหลีกเลี่ยงการรวมตัวการณ์ในพื้นที่ปิดอากาศไม่ถ่ายเท แต่ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกันในช่วงวันหยุดก็ควรบอกให้ผู้คนรอบข้างแล้วใส่หน้ากากเวลาที่จะพูดคุยหรือเวลาอยู่ร่วมกัน
วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส และไม่เครียดจนเกินไป
ในช่วงที่หลายคนต้องทำงานอยู่ที่บ้านหรือลดการออกนอกบ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังคงอยู่ในโลกของเราอย่างยาวนานทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันของตัวเองไปมากเลยทีเดียวเลยล่ะ นอกจากนี้การที่ต้องอยู่บ้านนาน ๆ ก็สามารถสร้างความเครียดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน หรืออาจสร้างเหตุการณ์ให้คนในบ้านทะเลาะกันมากขึ้นจากการที่ต้องพบปะเจอหน้ากันมากเกินไปนั่นเอง วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันที่บทความ สุขภาพดี ได้เลยค่ะ 1. ออกกำลังกาย – วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้วยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟินออกมาทำให้เรารู้สึกมีความสุขนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อร่างกายได้ขยับเขยื้อนและไม่ปวดเมื่อยก็จะทำให้รู้สึกดีอีกด้วย 2. กินอาหารที่ดีและดื่มน้ำให้เพียงพอ – วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส สิ่งที่เรานำเข้าสู่ร่างกายทั้งหมดส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเราทั้งนั้น การรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์รวมถึง การดื่มน้ำ สะอาดอย่างเพียงพอก็ทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นด้วยได้ 3. หางานอดิเรกที่สามารถทำที่บ้านได้ – วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส การอยู่บ้านทั้งวันโดยที่ไม่ได้ทำไรหรือทำอะไรเดิม ๆ มากเกินไปก็ทำให้รู้สึกเบื่อได้ ดังนั้นลุกขึ้นมาหางานอดิเรกใหม่ ๆ ทำ เช่น การวาดภาพ อ่านหนังสือ ฟัง podcast หรือการออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ นอกจากนี้การที่เรามีเป้าหมายในการทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นในการตื่นขึ้นมาในแต่ละวันอีกด้วย 4. พักผ่อนให้เพียงพอ – วิธีการดูแลสุขภาพจิตในช่วงกักตัวให้สดใส อย่างที่ทุกคนทราบกันดีกว่าการพักผ่อนเป็นเรื่องที่สำคัญต่อร่างกายมากที่สุดเพราะขณะที่เราพักผ่อนร่างกายจะได้ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ที่สึกหรอไป ทั้งยังทำให้ระบบต่าง ๆ …
สุขภาพที่มนุษย์ทุกคนจะต้อง ดูแลตนเองช่วงโควิดระบาด
ดูแลตนเองช่วงโควิด สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นต้องบอกเลยว่าไม่มีข่าวอะไรที่แซงข่าวโควิดไปได้เลย ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่ประเทศไทยเราเท่านั้น แต่เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นโรคติดต่อที่มีผลต่อชีวิตเป็นอย่างมาก และไม่เพียงแค่มีผลกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังพ่วงไปถึงเศรษฐกิจ การจ้างงาน ความสัมพันธ์ต่างๆอีกด้วย มันมีผลกระทบมากจริงๆ และในที่นี้เราจะมาพูดถึงสิ่งที่มนุษย์ทุกๆคนจะต้องรับมือในช่วงโควิดนี้ และจะมีสถานการณ์หรือสิ่งใดบ้างเราจะมาบอกให้คุณได้ฟังกัน ดังนี้ การ ดูแลตนเองช่วงโควิด ระบาดควรปฎิบัติดังนี้ เริ่มจากประเทศไทยเลย เราจะเห็นกราฟและจำนวนของผู้ป่วยโควิดในไทยทุกๆวันว่าผู้ที่มีอาการเสี่ยงมากที่สุด ก็คือ กลุ่มของผู้ป่วยที่มีสุขภาพไม่ดีนัก อย่าง โรคเบาหวาน เหตุเพราะเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วนั่นเอง ฉะนั้น การที่มีโรคแทรกซ้อนอย่างโควิดขึ้นมานั้นก็ยิ่งที่จะไปกระตุ้นโรคให้มีอาการที่หนักขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ส่วนในต่างประเทศนั้น บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยากมาก เนื่องจากความเชื่อและวัฒนธรรมในการดำเนินชีวิตนั้นมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จึงทำให้ความคิดความอ่านบางอย่างระหว่างคนเอเชียและยุโรปจึงมีความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ซึ่งเราจะเห็นว่าคนต่างชาติมักจะไม่ใส่แมสก์ป้องกันโรคโควิดกัน เพราะคิดว่าคนใส่แมสก์ คือ คนที่ป่วยหรือมีสุขภาพที่ย่ำแย่เท่านั้น และสิ่งที่เป็นเครื่องหมายของโรคโควิดนี้ได้ดี คือ การใส่แมสก์ในทุกๆวันนั่นเอง ไม่ว่าแมสก์ที่ใส่นั้นจะเป็นแบบผ้าหรือแบบทางการแพทย์ที่แพทย์มักจะนิยมใส่กันก็ตาม เราก็สามารถที่จะเลือกใส่ได้ ทั้งนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากโรคโควิดนั่นเอง จะเห็นได้ว่า โควิด เป็นโรคที่มีผลต่อสุขภาพเป็นที่สุด เนื่องจากเป็นโรคที่เป็นการติดต่อจากคนสู่คนและเป็นการติดต่อที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลกอีกด้วย ฉะนั้น ทุกๆคนในโลกใบนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวเองให้ดีๆเพื่อผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์โรคโควิดนี้ไปให้ได้ >>>สุขภาพดี >>>ผู้ป่วยโรคไต ดูแลตัวเองอย่างไรช่วง “โควิด-19″ บทความที่ผ่านมา ภาพที่ 1-3 ที่มา http://healthydee.moph.go.th/article_list.php?page=4